ผ่านพ้นไปแล้ว สำหรับโครงการอบรมวิทยากรส่งเสริมคุณธรรม Sustainability c Moral “ตามรอยพระราชา” สร้างนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนจากศาสตร์พระราชา นำวิทยากรส่งเสริมคุณธรรม รุ่นที่ 2 ลงพื้นที่เรียนรู้และสัมผัสหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เสริมศักยภาพและต่อยอดสู่เวทีวิทยากรระดับประเทศ ณ โครงการเขื่อนขุนด่านปราการชล อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และศูนย์การเรียนรู้ภูกระเหรี่ยง จ. นครนายก
ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) ร่วมกับ มูลนิธิธรรมดี จัดโครงการพัฒนากระบวนการให้ความรู้ในหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อส่งเสริมพัฒนาศักยภาพวิทยากร และปราชญ์ชาวบ้านในแหล่งเรียนรู้โครงการพระราชดำริ รวมทั้งผู้บริหารองค์กรภาคีต่างๆ จากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่สนใจ บูรณาการพัฒนานวัตกรรมศาสตร์พระราชา จาก 9 เส้นทาง 81 แหล่งเรียนรู้ พร้อมกับการเชื่อมโยง Sustainable Development Goals เป้าหมายความยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ เพื่อส่งเสริมพัฒนาศักยภาพวิทยากรส่งเสริมคุณธรรม “ตามรอยพระราชา” สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้สู่สากลเป็นประโยชน์แก่ชุมชนและสังคม ซึ่งได้จัดและประสบความสำเร็จมาแล้ว และในครั้งนี้เป็นการจัดสำหรับ วิทยากรส่งเสริมคุณธรรม “ตามรอยพระราชา” รุ่นที่ 2
โครงการอบรมวิทยากรส่งเสริมคุณธรรม Sustainability c Moral “ตามรอยพระราชา” สร้างนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนจากศาสตร์พระราชา เป็นหลักสูตรอบรมแบบไฮบริด ออนไลน์อินเตอร์แอคทีฟ 2 วัน และลงพื้นที่ทำกิจกรรม 1 วัน ได้รับเกียรติจาก รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตรี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม บรรยายพิเศษในหัวข้อ “คุณธรรม” สู่นวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เสริมทัพหลักสูตรคุณธรรม โดย ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิศูนย์คุณธรรม และประธานมูลนิธิธรรมดี อัดแน่นความรู้กับกิจกรรมเวิร์กชอปการสร้างประสบการณ์การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ด้วย Board Game โดย อาจารย์อดุลย์ ดาราธรรม นายกสมาคมนักเรียนเก่า AFS ประเทศไทย ให้เกียรติเป็นวิทยากรประจำหลักสูตร พร้อม commentator ที่จะร่วมกันปั้นสุดยอดวิทยากรวิถีใหม่ยุค 5G สู่เวทีระดับประเทศ ซึ่งกิจกรรมอบรมออนไลน์ สำหรับวิทยากรคุณธรรม รุ่นที่ 2 ได้จัดไปเมื่อเดือนมกราคม 2565 ที่ผ่านมา
ซึ่งผู้เข้าอบรมในหลักสูตรจะได้เรียนรู้ด้วยความเข้าใจด้วย “การลงมือทำ” โดยสอดแทรกการพัฒนาที่ยั่งยืน ด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอาศัยหลักภูมิปัญญาและความซื่อสัตย์สุจริตตลอดจนหลักการเดินทางสายกลาง ความสมเหตุสมผล และความรอบคอบ ตามแนวคิดของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เพื่อน้อมนำมาปรับประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตวิถีใหม่ New Normal สำหรับการพัฒนาเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม ประเทศชาติต่อไป
ในงานนี้ นำคณะลงพื้นที่และร่วมทำกิจกรรม พร้อมฟังการบรรยายประวัติความเป็นมาของบ้านภูกะเหรี่ยงจาก คุณปิยะชาติ จันลา ผู้บุกเบิกศูนย์เรียนรู้บ้านภูกะเหรี่ยงวิถีชุมชน ที่สะสมข้าวของเครื่องใช้ในอดีตของบรรพบุรุษ สืบทอดไว้ให้ลูกหลานได้ชื่นชมในปัจจุบัน และในอนาคต นำมาผสมผสานกันอย่างลงตัว
เพื่อให้ผู้สนใจและนักท่องเที่ยวได้ชื่นชมกัน และยังได้จำลองพิธีทำขวัญข้าวแบบโบราณมาให้ได้ชมกัน การทำข้าวกะยาคู และการสาธิตสีข้าวแบบโบราณครบวงจร
เป็นการดำรงไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีที่มีมาแต่โบราณความพอเพียงที่ยึดถือเป็นแนวทางการดำเนินชีวิต และต่อยอดโมเดลเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง เรียนรู้การทำเกษตรแบบผสมผสานตามแนวทฤษฎีใหม่ รวมถึงการพัฒนาที่ดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ เน้นการเพาะปลูกพืชผล และการทำเกษตรแบบผสมผสาน โดยรับแรงบันดาลใจจาก ศาสตร์พระราชา ซึ่งเป็นปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเชื่อมโยงสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม
ต่อจากนั้นได้เดินทางไปฟังการบรรยาย เรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำจาก คุณขัตติยา เที่ยงจิตร์ วิศวกรชลประทานปฏิบัติการ เขื่อนขุนด่านปราการชล จากโครงการเขื่อนคลองท่าด่าน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ (เขื่อนขุนด่านปราการชล)ในพิธีเปิดโครงการ ได้รับเกียรติจาก รศ.นพ. สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของโครงการอบรมวิทยากรส่งเสริมคุณธรรม Sustainability c Moral “ตามรอยพระราชา” สร้างนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนจากศาสตร์พระราชา
ว่า“เป็นการเตรียมความพร้อมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ อีกทั้งเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการส่งเสริมคุณธรรม ซึ่งคาดหวังว่าวิทยากร และปราชญ์ชาวบ้าน จะสามารถเข้าใจถึงกระบวนการในการออกแบบกิจกรรมให้ความรู้ และสามารถถ่ายทอด “ศาสตร์พระราชา” ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เกิดพลังเรียนรู้จากประสบการณ์จริง พร้อมกับการส่งเสริมคุณธรรม ได้แก่ พอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา และกตัญญู ให้เป็นวิถีชีวิตของคนไทย และขยายผลเชื่อมโยงไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม”
ด้าน ดร. ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานมูลนิธิธรรมดี หนึ่งในวิทยากรผู้บรรยายในหลักสูตร กล่าวเพิ่มเติมว่า “หลักสูตรอบรมวิทยากรคุณธรรม “ตามรอยพระราชา” เป็นหลักสูตรแรกและหลักสูตรเดียว ที่บูรณาการความรู้ความเข้าใจในเรื่องปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการถอดรหัสศาสตร์พระราชา จากพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต ที่มีอยู่กว่า 4,800 โครงการทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ให้ผู้เข้ารับการอบรมทราบถึงหลักปฏิบัติ และการพัฒนาที่สมดุล และยั่งยืน พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ความรู้ และเทคโนโลยีนับว่าเป็นหลักสูตรการก้าวอย่างมีหลักการประกอบด้วยด้วยองค์ประกอบของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน UN SDGs ตามนโยบายที่สหประชาชาติได้วางหลักเกณฑ์ไว้ที่ทุกประเทศต้องดำเนินการเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายในปี 2030 ”
สำหรับวิทยากรส่งเสริมคุณธรรม “ตามรอยพระราชา” รุ่นที่ 2 จำนวน 9 ทีม ที่ได้ผ่านการคัดเลือก ร่วมนำเสนอในห้องประชุม และเสนองานผ่านระบบออนไลน์ และผู้ที่คว้ารางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ นางฟ้าเสรี ประพันธา บาทจาก ไร่นาฟ้าเอ็นดู / ตัวแทนโครงการพลังชุมชน จ.อุบลราชธานี ได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท
ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 มีทีม 2 ทีม ได้แก่ นางสาวจิดาภา จันทรทิพย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดมงคล จ.สระบุรี และดร.ปฏิญญา ประพฤติชอบ ผู้อำนวยการโรงเรียนสันติธรรมวิทยา จ.อุดรธานี ได้รับเงินรางวัล 3,000 บาท และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ร.ต.อ.กวินพัฒน์ ธีรประเสริฐกุล จาก ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทราย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เพชรบุรี ได้รับเงินรางวัล 2,000 บาท ซึ่งวิทยากรทุกท่านจะได้รับประกาศนียบัตรผ่านการอบรมอีกด้วย
สามารถติดตามผลงานของวิทยากรคุณธรรม “ตามรอยพระราชา” ได้ทางช่องทาง Facebook : ตามรอยพระราชา – The King’s Journey