SMARTPHONE » เปิดตัว “realme 14 5G series” เจ้าของฉายา “Performance Dominator” แห่งปี

เปิดตัว “realme 14 5G series” เจ้าของฉายา “Performance Dominator” แห่งปี

29 มีนาคม 2025
92   0

realme (เรียลมี) เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุดของ Number series ที่แฟน ๆ เรียลมีทั่วโลกต่างรอคอยกับ “realme 14 5G” สมาร์ตโฟนรุ่นแรกในโลกที่ติดตั้งหน่วยประมวลผลตัวแรงอย่าง Snapdragon 6 Gen 4 มอบประสิทธิภาพเหนือขีดจำกัด จนได้รับฉายา “Performance Dominator” แห่งปี พร้อมบอดี้แบบ Mecha Design ที่มีแรงบันดาลใจจากหุ่นยนต์รบ จนเป็นที่จับตามองของเหล่าเกมเมอร์ทั่วโลก ผลิตด้วยเทคโนโลยีลิโธกราฟีนาโนขั้นสูง (Advanced Nano-lithography Technology) พร้อมโมดุลแฟลชแบบ “Victory Halo” ที่จะเรืองแสงแบบไดนามิกเพื่อเพิ่มความสนุกสนานในการใช้สมาร์ตโฟนของคุณ นอกจากนี้ ยังเปิดตัวรุ่น “realme 14 Pro 5G” ซึ่งใช้ซีพียู Dimensity 7300 และยังเป็นสมาร์ตโฟนที่เปลี่ยนสีตามอุณหภูมิได้รุ่นแรกของโลก ตอบโจทย์ทั้งความเร็วแรงเต็มขั้นและการใช้งานแนวไลฟ์สไตล์ที่สวยโดดเด่นในทุกมุมมอง ทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมแบตเตอรี่ Titan Graphite 6000mAh และระบบชาร์จเร็วสุดในเซกเมนต์ที่ 45 วัตต์ จัดเต็มด้วยฟีเจอร์ระดับเรือธงทั้งจอแสดงผล AMOLED 120Hz และฟีเจอร์ AI อีกมากมาย พร้อมเปิดมิติใหม่ของประสบการณ์สมาร์ตโฟนแห่งอนาคตที่แท้จริง

realme 14 5G – ครองแชมป์ Performance Dominator แห่งปี

realme 14 5G ออกแบบมาเพื่อมอบประสิทธิภาพที่เหนือขั้น ติดตั้งขุมพลังซีพียู Snapdragon 6 Gen 4 ที่มีคะแนน AnTuTu สูงถึง 810,000 ตอบโจทย์ทั้งนักกีฬาอีสปอร์ตระดับมืออาชีพและเกมเมอร์มือสมัครเล่น โดยเป็นหน่วยประมวลผลที่ผลิตบนโครงสร้างระดับ 4nm จึงประหยัดพลังงาน โดยที่ยังมอบประสิทธิภาพขั้นสูง สามารถทำงานเร็วขึ้นกว่าซีพียูรุ่นก่อนถึง 15%

ภาพประกอบข่าวประชาสัมพันธ์_realme 14_13.jpg

นอกจากนี้ realme 14 5G ยังมากับแบตเตอรี่ Titan Graphite ขนาดความจุ 6000mAh ซึ่งเป็นแบตเตอรี่กราไฟต์ที่มีความหนาแน่นพลังงานสูงที่สุดในอุตสาหกรรม และหนาแน่นขึ้นถึง 8% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า พร้อมเทคโนโลยีการชาร์จที่ดีที่สุดในเซกเมนต์ที่ 45W เพื่อให้เหล่าเกมเมอร์สามารถใช้ดวลฝีมือในเกมการแข่งขันได้ตลอดทั้งวัน พร้อมการรับประกันสุขภาพแบตเตอรี่นานสูงสุด 4 ปี โดยที่สามารถรักษาความจุได้มากกว่า 80% หลังจากการใช้งาน 1400 รอบการชาร์จ เพิ่มความมั่นใจในการใช้งานที่ยาวนานและคุ้มค่า

ภาพประกอบข่าวประชาสัมพันธ์_realme 14_9.png

realme 14 5G ใช้จอแสดงผลแบบ AMOLED 120Hz ที่ให้มอบสีสันสดใส ตอบโจทย์สายอีสปอร์ตด้วยภาพที่คมชัดสบายตา ช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตาเมื่อต้องจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน ผสานการทำงานด้วย AI Performance Engine อัจฉริยะ ช่วยเพิ่มความเร็วในการเปิดแอปพลิเคชันและการทำงานแบบมัลติทาสก์ได้อย่างราบรื่น

ภาพประกอบข่าวประชาสัมพันธ์_realme 14_4.jpg

สำหรับหัวใจสำคัญของเกมมิ่งสมาร์ตโฟนอีกหนึ่งอย่างคือค่า FPS ซึ่งหากค่า FPS สูงนั่นหมายถึงภาพที่แสดงจะมีความลื่นไหลมากขึ้นเช่นกัน โดย ณ ปัจจุบันสมาร์ตโฟนระดับกลางสามารถปรับค่า FPS ได้เพียงแค่ 60 FPS แต่ realme 14 5G ถือเป็นสมาร์ตโฟนที่ปรับเฟรมเรตได้สูงสุดถึง 90Hz แบบลื่นไหล ไม่มีหน่วง (สำหรับเกม Free Fire) เพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน รวมถึงการตอบสนองต่อการสัมผัสหน้าจอที่รวดเร็วแม่นยำและการทำงานที่เสถียรต่อเนื่อง ไม่เพียงเท่านั้น สำหรับความเป็นสมาร์ตโฟนที่เกมเมอร์เลือกใช้ เรียลมีมุ่งมั่นพัฒนา เพื่อให้สมาร์ตโฟนสามารถปรับค่า FPS ได้สูงถึง 120FPS ในเกมยอดนิยมบางเกมอีกด้วยเช่นกัน

ภาพประกอบข่าวประชาสัมพันธ์_realme 14_3.jpg

หน้าจอที่ลื่นไหลต้องมาพร้อมกับระบบระบายความร้อนที่ดีเยี่ยม realme 14 5G มาพร้อมกับ Bionic Cooling System ด้วยพื้นที่ในระบบระบายความร้อนขนาด 6,050 ตารางมิลลิเมตรซึ่งใหญ่ที่สุดในกลุ่ม และ HyperTherm Graphite ที่ครอบคลุมพื้นที่ความร้อนหลัก จะช่วยลดอุณหภูมิของ CPU ลงได้ถึง 20 องศาเซลเซียส ช่วยให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพที่เสถียรอย่างมาก มั่นใจในการเล่นเกมที่ราบรื่นแม้ในเกมที่มีกราฟิกหนัก

image.png

realme 14 Pro 5G –ทลายขีดจำกัดสมาร์ตโฟน Mid-rage สู่สเปกระดับเรือธง

สัมผัสสมาร์ตโฟนเปลี่ยนสีได้เป็นรุ่นแรกของโลก โดย realme 14 Pro 5G คือหนึ่งในตัวแทนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีครั้งสำคัญทั้งในด้านการออกแบบ การถ่ายภาพ และประสิทธิภาพการทำงานทุกมิติ

image.png

realme ร่วมมือกับ Valeur Designers นำเสนอการออกแบบ “Unique Pearl Design” ใน 14 Pro 5G โดยใช้เม็ดสีเทอร์โมโครมิกขั้นสูงทำให้ฝาหลังเปลี่ยนสีจากสีขาวมุกเป็นสีฟ้าสดใสในระดับอุณหภูมิต่ำ ซึ่งชวนให้นึกถึงสัตว์น้ำในท้องทะเลลึก โดยยังนำเสนอสี Suede Grey ที่สวยหรูหราด้วยวัสดุหนังวีแกน

ภาพประกอบข่าวประชาสัมพันธ์_realme 14_6.jpg

ในด้านประสิทธิภาพ realme 14 Pro 5G ขับเคลื่อนด้วย MediaTek Dimensity 7300 ใช้แบตเตอรี่ Titan Graphite 6,000mAh ชาร์ตไว 45 วัตต์ สามารถเล่นเกมได้นานถึง 10 ชั่วโมงและเล่นวิดีโอ 17 ชั่วโมงต่อการชาร์จเพียงครั้งเดียว ระบบระบายความร้อน 3D VC Cooling System ที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่ม

ภาพประกอบข่าวประชาสัมพันธ์_realme 14_7.jpg

realme 14 Pro 5G ตอบโจทย์สายไลฟ์สไตล์ด้วยเทคโนโลยีกล้องรุ่นใหม่ที่ใช้เลนส์เพอริสโคปในการถ่ายภาพเทเลโฟโต้ มาพร้อมฟีเจอร์ AI Ultra Clarity 2.0 ซึ่งขับเคลื่อนด้วย NEXT AI มอบคุณภาพภาพถ่ายที่สวยสดใสสไตล์ AI Super-resolution ระดับเรือธง บริเวณโมดูลกล้องยังติดตั้ง MagicGlow Triple Flash ตัวแรกของโลก ซึ่งออกแบบมาเพื่อการถ่ายภาพบุคคลในเวลากลางคืนได้อย่างสวยงาม โดยเปลี่ยนไฟแฟลชให้กลายเป็นการจัดไฟระดับมืออาชีพ
realme 14 Pro 5G ยังมอบคุณสมบัติความทนทานเป็นเยี่ยม โดยผ่านการรับรองมาตรฐาน TÜV Rheinland Rugged Smartphone ด้วยระดับ IP69/IP68 สามารถกันน้ำกันฝุ่น ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพใต้น้ำได้อย่างมั่นใจ

ภาพประกอบข่าวประชาสัมพันธ์_realme 14_12.jpg

ราคาและการจำหน่าย

  • realme 14 5G – นำเสนอโทนสี Mecha Silver, Storm Titanium และ Warrior Pink

    o รุ่นความจุ 12+256GB ราคา 11,999 บาท สามารถ Pre-Order ได้ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม – 3 เมษายน และสามารถเป็นเจ้าของได้พร้อมกันในวันที่ 4 เมษายนผ่านช่องทางตัวแทนจำหน่าย BaNANA, BKK, Kingkong, IT City, CSC, TG, Jaymart, Maxlink, Stamp และ Advice, ช่องทางโอเปอร์เรเตอร์ AIS, True และ Dtac, ช่องทาง Online อาทิ Shopee , Lazada และ Tiktok Shop และ realme BrandShop ทั่วประเทศ

    o รุ่นความจุ 12+512GB ในราคา 13,999 บาท สามารถ Pre-Order ได้ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม – 3 เมษายน พิเศษ! ในช่วง Pre-Order สามารถเป็นเจ้าของได้ผ่านช่องทาง Shopee เท่านั้น และสามารถเป็นเจ้าของได้พร้อมกันในวันที่ 4 เมษายนผ่านช่องทางตัวแทนจำหน่าย BaNANA, BKK, Kingkong, IT City, CSC, TG, Jaymart, Maxlink, Stamp และ Advice, ช่องทางโอเปอร์เรเตอร์ AIS, True และ Dtac , ช่องทาง Online อาทิ Shopee , Lazada และ Tiktok Shop (สำหรับช่องทาง Lazada และ Tiktok Shop จำหน่ายวันแรกในวันที่ 12 เมษายน) และ realme BrandShop ทั่วประเทศ

    o  ช่องทางการสั่งซื้อผ่านทาง Shopee : https://bit.ly/43Z6QgO
  • realme 14 Pro 5G – นำเสนอโทนสี Pearl White และ Suede Grey ในรุ่นความจุ 12+512GB ในราคา 14,999 บาท สามารถ Pre-Order ได้ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคมถึง 3 เมษายนและเป็นเจ้าของได้พร้อมกันวันที่ 4 เมษายนผ่านช่องตัวแทนจำหน่าย COM7 และ realme Brand Shop ทั่วประเทศ