พร้อมออกอากาศให้แฟนๆ ได้ติดตามกันทุกวันอาทิตย์ เวลา 18.20 น.ทางช่อง3 กด33 (เริ่ม 31 ม.ค.นี้) แล้ว สำหรับรายการ “IDOL PARADISE” ไอดอล พาราไดซ์ ที่ผลิตโดย บริษัท วีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด รายการที่ค้นหาศิลปินไอดอลแนวใหม่!!! กับกติกาที่เข้มข้น กระชากอารมณ์ลุ้น จนทำให้คุณต้องหลงรัก แบบไม่รู้ตัว
ครั้งนี้ทีมคณะกรรมการผู้ร่วมเฟ้นหาสาวๆ ที่ฉายแวว มีความสามารถ และพร้อมที่จะก้าวไปเป็นศิลปิน T-POP IDOL ในอนาคตก็คือ สุดยอดเอนเตอร์เทนเนอร์คุณภาพ ระดับแถวหน้าของเมืองไทย 3 ท่านด้วยกัน ได้แก่ ต๊งเหน่ง รัดเกล้า, ป๊อบ ปองกูล และฮั่น อิสริยะ
โดยโจทย์แรกของการแข่งขัน เพื่อคัดเลือกสาวๆ ที่จะเข้าสู่รอบต่อไปเพียง 36 คน ก็คือโจทย์การแสดงโชว์ด้านการร้อง-เต้น-เล่น-แสดง ในเวลาที่จำกัด เพียงคนละ 10 วินาทีนั่นเอง งานนี้สาวๆ ทั้ง 55 คน จึงต้องโชว์ความสามารถ เพื่อสร้างความประทับใจให้กรรมการกดปุ่มขยายเวลาเพิ่มให้อีกคนละ 10 วินาทีให้ได้ ซึ่งทีมคณะกรรมการได้เล่าถึงมาตรฐาน และเกณฑ์การคัดเลือกน้องๆ ในโจทย์ที่ได้รับครั้งนี้ว่า
“ต๊งเหน่ง รัดเกล้า” นักร้องนักแสดงมากความสามารถ กับการคอมเมนต์ให้น้องๆ ได้เก็บเกี่ยวความรู้ “คือเราทุกคนทำงานในวงการกันมานานนะคะ ดังนั้นก็คงจะไม่ปล่อยอะไรออกไปง่ายๆ แน่นอนค่ะ ซึ่งในส่วนของรายการเอง ก็มีเกณฑ์และมีมาตรฐานตรงนี้อยู่ แล้วก็มอบหมายหน้าที่ที่สำคัญนี้มาให้กับพวกเรา แต่ถ้าจะถามว่าใครจะโหดกว่านั้น พี่ก็ขอบอกก่อนเลยค่ะว่าพี่ใจดี (หัวเราะ)”
สำหรับเกณฑ์การให้คะแนนน้องๆ ฮั่น อิสริยะ นักร้องสายแดนซ์คุณภาพ… “อย่างของผมค่อนข้างที่จะชัดอยู่แล้ว คือจะดูในเรื่องของการเต้น เพอร์ฟอร์แมนซ์ต่างๆ บนเวที แล้วก็การครีเอทีฟหรือการคิดโชว์ ว่าออกมาเป็นยังไง มีศักยภาพที่จะเป็นไอดอลต่อในอนาคตได้หรือเปล่า ก็ต้องบอกว่ามาตรฐานมีอยู่ สิ่งที่ต้องการก็มีอยู่แล้วเช่นกัน แต่ต้องมาดูกันว่าจะเป็นใครแค่นั้นเอง ซึ่งในวันนี้เราจะต้องมาหาคนๆ นั้นให้เจอ สิ่งที่พี่ต๊งเหน่งพูดนั้นถูกต้องมากๆ เพราะแต่ละคนก็จะมีมุมมองมีความละเอียดในการตัดสินที่แตกต่างกันไป แต่คงบอกไม่ได้หรอกว่าใครโหดกว่า”
ทางด้าน “ป๊อบ ปองกูล” เอนเตอร์เทนเนอร์สายร้อง มาดกวนชวนอารมณ์ดีกล่าวว่า… “ของฮั่นก็จะเป็นในส่วนของการร้องด้วยเต้นด้วย ส่วนของพี่ต๊งเหน่งก็จะเป็นเรื่องของการร้องและการแสดง ส่วนผมเองมาในฐานะคนที่ติดตามดูไอดอลของไทย และเกาหลีมาค่อนข้างเยอะ ดังนั้นในฐานะคนที่เป็นแฟนคลับ ผมก็จะเอาความรู้สึกตรงนี้มาแทนใจคนดูไปเลย ว่าเขาน่าจะอยากจะเห็นหรืออยากได้อะไร แล้วผมก็จะพาน้องๆ เหล่านั้น เข้ารอบลึกๆ เพื่อไปสู่การเป็น T-POP IDOL ตัวจริงให้ได้”
ในแง่ของโจทย์ 10 วินาที “ต๊งเหน่ง” เล่าว่า… “โจทย์ที่ได้รับมาคือการดูภาพรวมของโชว์ ทั้งในแง่ของการสื่อสารอารมณ์ แอ็คติ้งต่างๆ ต้องดูหมด เช่น ใครร้องดีแต่ไม่สื่ออารมณ์ หรือส่งอารมณ์ไปไม่ถึงคนดู ตรงนี้ก็คือไม่ได้ และก็จะต้องดูด้วยว่าน้องๆ จะต้องไปพัฒนาต่อยังไง รวมถึงเรื่องของเสน่ห์เฉพาะตัวของแต่ละคน ตรงนี้ก็ค่อนข้างเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการเป็นไอดอล อย่างที่ฮั่นบอก พอมาถึงตรงนี้แล้ว 10 วินาทีที่มีกับโชว์ที่เตรียมมา น้องๆ จะต้องสะกดสายตาคณะกรรมการให้ได้ตั้งแต่วินาทีแรกๆ และไปต่อให้ดีที่สุด เพราะมันคือ 10 วินาทีทองของพวกเขาจริงๆ ซึ่งน้องๆ เองก็จะต้องซ้อมกันอย่างหนัก และทำการบ้านในเรื่องของโชว์ที่เตรียมมาเป็นอย่างดี และที่สำคัญคือต้องไม่ประมาท มีสติอยู่กับสิ่งที่ทำโดยตลอด และไม่คิดว่าการโชว์นี้คือการแข่งขัน”
ส่วนผลการตัดสินจะเป็นอย่างไร…และใครกันที่ยืนหยัดเป็น 36 คน ที่ฝ่าด่านโหดในโจทย์หิน 10 วินาทีนี้ไปได้ เพื่อพบกับโจทย์การแข่งขันที่เข้มข้นมากขึ้นในรอบต่อไป ติดตามชมพร้อมกันได้ในรายการ “IDOL PARADISE” ทุกวันอาทิตย์ เวลา 18.20 น. ทางช่อง3 กด33