ไม่มีหมวดหมู่ » เกรท วอลล์ มอเตอร์ ต้อนรับเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เยี่ยมชมโรงงานอัจฉริยะที่จังหวัดระยอง แสดงศักยภาพในการผลักดันไทยให้เป็นฐานการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าพวงมาลัยขวาในภูมิภาคอาเซียน

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ต้อนรับเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เยี่ยมชมโรงงานอัจฉริยะที่จังหวัดระยอง แสดงศักยภาพในการผลักดันไทยให้เป็นฐานการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าพวงมาลัยขวาในภูมิภาคอาเซียน

20 กรกฎาคม 2022
362   0

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ให้การต้อนรับ ฯพณฯ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยและคณะ เยี่ยมชมโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) ในเขตพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นโรงงานเต็มรูปแบบแห่งที่ 2 นอกประเทศจีน ร่วมแสดงศักยภาพและความมุ่งมั่นในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าพวงมาลัยขวาในภูมิภาคอาเซียนที่ได้มาตรฐานระดับโลก และเต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทในการก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า (xEV leader) เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

สำหรับการมาเยี่ยมชมโรงงานอัจฉริยะครั้งนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ หาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย พร้อมด้วย มร. หวาง ลี่ผิง อัครราชทูตพาณิชย์ มร. เก่อ ทัง และ มร. ฟ่าน เสว่ยเหวย ที่ปรึกษา ร่วมแลกเปลี่ยนพูดคุยด้านทิศทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับจีนในการพัฒนาประเทศไทย รับฟังสรุปผลความสำเร็จของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาตลอด 1 ปีกว่า รวมถึงผลการปฏิบัติงานด้านความรับชอบต่อสังคม โดยมีคณะผู้บริหารจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ นำโดย มร. เอลเลียต จาง ประธานอาเซียน มร. เกร็ก ลี รองประธานบริหารฝ่ายการผลิตในโรงงาน และ มร. ไมเคิล ฉง ผู้จัดการทั่วไป เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ให้ข้อมูล ก่อนนำ ฯพณฯ เอกอัครราชทูตและคณะเข้าชมภายในโรงงานเพื่อรับชมสายงานการผลิตและศักยภาพของเกรท วอลล์ มอเตอร์ในการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าพวงมาลัยขวาต่อไป

ฯพณฯ หาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย กล่าวว่า “การได้เข้าเยี่ยมชมศักยภาพการผลิต ณ โรงงานอัจฉริยะของเกรท วอลล์ มอเตอร์ และรับทราบถึงผลความสำเร็จของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ตลอดระยะเวลาที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยนั้นนับเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง ตลอดระยะเวลา 47 ปี ตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเป็นต้นมา สาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศไทยถือว่าเป็นพี่น้องที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาโดยตลอด การเติบโตของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่เข้ามาเริ่มดำเนินธุรกิจท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งนับว่าเป็นช่วงเวลาที่ท้าทาย สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของทั้งสองประเทศ ที่สามารถสร้างความไว้วางใจและความเชื่อใจต่อภาพลักษณ์และจุดยืนของแบรนด์จากประเทศจีนจากพี่น้องชาวไทยได้อย่างประสบความสำเร็จ ในฐานะเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทยรู้สึกยินดีและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเกรท วอลล์ มอเตอร์ จะสร้างความคึกคักให้กับตลาดรถยนต์ในประเทศไทย รวมถึงร่วมผลักดันไทยให้เป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างประสบความสำเร็จ”

มร. เอลเลียต จาง ประธานอาเซียน เกรท วอลล์ มอเตอร์ กล่าวว่า “หลังจากเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยได้ 1 ปีกว่า เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ตอกย้ำคุณค่าหลักของแบรนด์ “New Energy” “New Intelligence” และ “New Experience” โดยยึดถือเอากลุ่มผู้บริโภคเป็นหัวใจสำคัญ (Customer-centric) เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่การเป็นสังคมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นรูปธรรม และได้รับผลตอบรับที่ดีเป็นอย่างมากจากลูกค้าชาวไทยทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จของ HAVAL H6 ที่สามารถครองยอดขายอันดับหนึ่งในตลาดคอมแพคเอสยูวีอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเสียงตอบรับของยอดจอง ORA Good Cat GT ในระยะเวลาอันสั้น นอกจากนั้น เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นและยกระดับประสบการณ์ลูกค้าอย่างต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์ 6S ที่ให้ความสำคัญกับการการขายและการบริการ การจับมือร่วมกับพันธมิตรขยายสถานีชาร์จประจุไฟฟ้า การดำเนินงานรูปแบบ Online-to-Offline (O2O) ผ่าน GWM Application โดยเกรท วอลล์ มอเตอร์ รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ถ่ายทอดความสำเร็จเหล่านี้ผ่านการต้อนรับ ฯพณฯ เอกอัครราชทูตและคณะขณะเข้าเยี่ยมโรงงานอัจฉริยะครั้งนี้ และจะมุ่งมั่นเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ของแบรนด์จีนในตลาดประเทศไทยและตลาดต่างประเทศ ควบคู่ไปกับการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าพวงมาลัยขวาในภูมิภาคอาเซียนที่ได้มาตรฐาน ร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์อาเซียนสู่อนาคตต่อไป”

นอกเหนือจากกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่ชนะใจลูกค้าแล้ว เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังมุ่งมั่นยืนหยัดเคียงข้างคนไทยในทุกสถานการณ์ ผ่านการดำเนินงานกิจกรรมเพื่อสังคม และการร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่นและองค์กรไม่แสวงหากำไรในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นร่วมมือกับเครือข่ายอาสาสมัคร Food For Fighters (FFF) ภายใต้โครงการ “GWM: GO WITH ME, GO TOGETHER รวมหัวใจพร้อมก้าวผ่านทุกวิกฤติไปด้วยกัน” ส่งมอบอาหาร ถุงยังชีพ และอุปกรณ์ป้องกันโรค ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ชุมชน และครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบ บริจาคหน้ากากอนามัยกว่า 460,000 ชิ้น ให้แก่องค์กรภาครัฐและสังคม 29 แห่ง อีกทั้งยังร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดคาราวานรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง กระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น และสนับสนุนการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการผลักดันศักยภาพกลุ่มคนรุ่นใหม่ในการขับเคลื่อนประเทศไทยในมิติต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ผ่านการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับหลากหลายองค์กรด้านการศึกษา

สำหรับโรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ มอเตอร์ ประเทศไทยนั้น เป็นโรงงานอัจฉริยะและฐานการผลิตเต็มรูปแบบแห่งที่ 2 นอกประเทศจีน จัดตั้งขึ้นภายใต้แนวคิด “ฉลาด ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” มีกำลังการผลิตแบบเต็มกำลังกำลังการผลิตได้สูงสุด 120,000 คัน/ปี  แบ่งการผลิตออกเป็นเป็น 2 เฟส ได้แก่ เฟสที่ 1 เพื่อรองรับการผลิตรถเอสยูวี และรถกระบะ ด้วยกำลังการผลิต 80,000 คัน/ปี และในเฟสที่ 2 จะมีการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเพิ่มอีก 40,000 คัน/ปี และจะเป็นฐานการผลิตหลักสำหรับรถยนต์พวงมาลัยขวาโดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า (xEV) ของภูมิภาคอาเซียน มีสัดส่วนของการผลิตและส่งออกอยู่ที่ 60:40 ซึ่งจะเป็นการจำหน่ายภายในประเทศ 60% และเป็นการส่งออกไปยังประเทศที่เป็นรถยนต์พวงมาลัยขวา 40% โดยมี All New HAVAL H6 Hybrid SUV เป็นรถรุ่นแรกจากสายการผลิต

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีระดับโลก” (Global Mobility Technology Company) จะยังคงมุ่งมั่นผลักดันประเทศไทยไปสู่ยุคของอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ไปด้วยกัน ด้วยโรงงานอัจฉริยะที่มีกระบวนการการผลิตด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ที่มาพร้อมนวัตกรรมที่สร้างความปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการยึดถือผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง เพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมตอบโจทย์ทุกความต้องการ และเคียงข้างเติบโตไปด้วยกันกับลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และสังคม เพื่อเป็นอีกหนึ่งกำลังในการขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและเศรษฐกิจไทยให้ก้าวต่อไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน