ไม่มีหมวดหมู่ » โกลบิส หนึ่งในนักลงทุนหลักของสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นตัวแรกของญี่ปุ่น ตั้งเป้าช่วยผลักดันศักยภาพสตาร์ทอัพในประเทศไทย

โกลบิส หนึ่งในนักลงทุนหลักของสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นตัวแรกของญี่ปุ่น ตั้งเป้าช่วยผลักดันศักยภาพสตาร์ทอัพในประเทศไทย

6 ธันวาคม 2020
872   0

นายโยชิโตะ โฮริ, ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, โกลบิส คอร์ปอเรชั่น มุ่งหน้าสนับสนุนการพัฒนาส่งเสริมสตาร์ทอัพไทย ด้วยการเปิดตัวโปรแกรมอบรม Pre-MBA ของมหาวิทยาลัยโกลบิสเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เนื่องจากมองเห็นศักยภาพของผู้นำทางธุรกิจ และผู้ประกอบธุรกิจคนไทยที่มีโอกาสเติบโตในระดับโลก โดยคอร์สแรกของโปรแกรมอบรม Pre-MBA จะเริ่มขึ้นในเดือนมกราคม ปี 2564

เมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว ภายหลังสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนธุรกิจมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard Business School) คุณโยชิโตะได้ก่อตั้ง “โกลบิส” (GLOBIS) บริษัทธุรกิจเงินร่วมลงทุน (venture capital firm) ขึ้น ซึ่งได้ช่วยสร้างสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นตัวแรกในประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันโกลบิสเป็นทั้งเจ้าของโรงเรียนธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นและหน่วยงานธุรกิจเงินร่วมลงทุนที่แยกออกมา คุณโยชิโตะกล่าวว่า สตาร์ทอัพในประเทศไทยสามารถที่จะเรียนรู้และประสบความสำเร็จเหมือนสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นหลายตัวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิเช่น Lazada (ประเทศมาเลเซีย), Grab (ประเทศสิงคโปร์), Revolution Precrafted (ประเทศฟิลิปปินส์), Go-Jek (ประเทศอินโดนีเซีย) และ VNG Corporation (ประเทศเวียดนาม)  ซึ่งในปี 2563 นี้ สตาร์ทอัพไทยสามารถระดมทุนได้มากกว่าเมื่อปี 2562 ถึง 30% ตัวเลขดังกล่าวนี้ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีมากขึ้นต่อสตาร์ทอัพไทย คุณโยชิโตะเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่านี่คือเวลาที่เหมาะสมสำหรับผู้ประกอบการในประเทศไทยในการยกระดับการศึกษาด้านธุรกิจที่ต้องการเติบโตและพัฒนา

พัฒนาตนเองได้ในสามเดือน

นอกจากทักษะพื้นฐานในด้านการดำเนินธุรกิจแล้ว โกลบิสยังมีเครือข่ายธุรกิจระดับโลกขนาดใหญ่ อีกทั้งมีคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งล้วนแต่เป็นเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจริง ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้โกลบิสแตกต่างจากคอร์สเรียนทั่วไป และสามารถช่วยให้ผู้ที่สนใจทางด้านธุรกิจประสบความสำเร็จได้อย่างแท้จริง

โกลบิสเชื่อว่าผู้นำทางธุรกิจแต่ละคนจะมีส่วนช่วยพัฒนาสังคมด้วยความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมแตกต่างกันไป ผู้เรียนของโกลบิสจะได้เรียนรู้ในการมองธุรกิจไปให้ไกลกว่าเพียงผลกำไร และสร้างระบบนิเวศสำหรับธุรกิจใหม่ เพื่อการก้าวหน้าไปสู่ความสำเร็จผ่านผู้คน ทุน และความรู้

มองหาโอกาสในช่วงเวลาที่ยากลำบาก

แม้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้เกิดความวุ่นวายในทุกภาคส่วนของโลก แต่โกลบิสก็ยัง พร้อมผลักดันผู้เรียนให้รู้จักมองมองหาโอกาสในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ยกตัวอย่างเช่น Airbnb, Skype, Uber และ WhatsApp ซึ่งสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นเหล่านี้ที่ปัจจุบันโด่งดังไปทั่วโลก ต่างถูกก่อตั้งขึ้นในช่วงวิกฤตทั้งสิ้น

คุณโยชิโตะเชื่อว่าคนไทยมีความสามารถในการใช้ประโยชน์จากวิกฤตและกล่าวว่า “ในช่วงเวลาที่ทุกอย่างกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ธุรกิจต่าง ๆ ถูกดิสรัปต์ด้วยเทคโนโลยีและเชื้อไวรัสโควิด-19แต่
ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์และเข้าใจเทคโนโลยีจะช่วยให้องค์กรก้าวฝ่าฟันอุปสรรคไปสู่ความสำเร็จได้ และที่โกลบิสเราสอนให้ผู้เรียนเป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เพื่อความก้าวหน้าทางธุรกิจและอาชีพ”

นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยพัฒนา

วิธีการสอนทักษะการเป็นผู้ประกอบธุรกิจของโกลบิส ไม่ใช่การให้ผู้เรียนมานั่งเปิดหนังสือเรียนอ่านเนื้อหา หรือจดสิ่งที่อาจารย์พูด แต่เป็นการจำลองสถานการณ์ทางธุรกิจจริงขึ้น เพื่อให้ผู้เรียนได้สัมผัสถึงประสบการณ์การอภิปรายกรณีศึกษาทางธุรกิจแบบเข้มข้น คอร์สทุกคอร์สของโกลบิสมีผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจในสาขาต่าง ๆ เป็นผู้สอน ซึ่งต่างคนต่างนำกรณีศึกษาของตนมาให้ผู้เรียนศึกษาวิธีการดำเนินธุรกิจ ควบคู่ไปกับการฝึกฝนการตัดสินใจ ผู้เรียนในโปรแกรมอบรม Pre-MBA จะสามารถดึงเอาศักยภาพของตนเองออกมาได้ ด้วยการคิดวิเคราะห์ พูดคุย รวมถึงแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้เรียนท่านอื่น ซึ่งเป็นการอบรมบ่มเพาะให้ผู้เรียนมีมุมมองแบบนักธุรกิจ

โปรแกรมอบรม Pre-MBA ที่โกลบิสนำมาเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยนี้ เป็นการเทรนแบบไฮบริด (hybrid) ซึ่งเป็นการผสมผสานการเรียนแบบตัวต่อตัว และแบบออนไลน์เข้าด้วยกัน ผู้เรียนสามารถเข้าอบรมกับอาจารย์ในกรุงเทพฯ หรือผ่านช่องทางอบรมออนไลน์ โดยคอร์สแรก Essentials of Marketing and Strategy จะเริ่มขึ้นในวันเสาร์ที่ 16 มกราคม 2564 โดยผู้ที่สนใจสามารถไปที่เว็บไซต์ www.globis.co.th/program/ เพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมโปรแกรมได้จนถึงวันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม 2563

นอกจากนี้โกลบิสยังให้การสนับสนุนคนไทยที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโปรแกรม ด้วยการมอบส่วนลดค่าเรียน 30% จากราคาเต็ม 37,850 บาท เหลือ 26,500 บาท (ยังไม่รวม VAT 7%) ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกด้วย