เคยนับไหมว่าชีวิตนี้ เคยพูดคำว่า “ถ้ารู้อย่างนี้” มาแล้วกี่ครั้งหรือรู้สึกเสียดายมาแล้วกี่หน กบ ขจรเดช เล่าช่วงเวลาที่ไม่รู้ว่าจะเป็นนาทีสุดท้ายของตัวเองผ่านเพลง “ถ้ารู้อย่างนี้”
ซิงเกิลที่ 3 จากอัลบั้มที่ 9“ลายนิ้วมือ” ของวง Big Ass (บิ๊กแอส) ค่าย genie records (จีนี่ เรคคอร์ดส) ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า ณ ตอนนี้ เป็นเพลงที่รักมากที่สุดตั้งแต่เขียนเพลงมา บวกกับทำนองจาก หมู อภิชาติ เจ้าพ่อเพลงช้าด้วยแล้ว แอบบอกเลยว่าเพลงนี้มีคนเสียน้ำตาในห้องอัดด้วย
กบ เล่าว่า “ไอ้หมูเลย คนอื่นเค้ากำลังดูเจ๋งอัดร้องอยู่ พี่ผมไม่ไหวแล้วครับ เมื่อเร็วๆนี้ผมโพสต์พลีชีพไปว่าผมรักเพลงนี้มากที่สุดแต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นเพลงที่ดีที่สุดหรือเพราะที่สุดนะ
แต่ ณ เวลานี้ ผมรักเพลงนี้ ผมเขียนเพลงนี้ให้พ่อที่เพิ่งเสียไป ก็พ่อหมูด้วยนั่นแหล่ะ นึกถึงช่วงเวลานั้น ถ้ารู้ว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่อยู่กับพ่อ ผมจะบอกรักพ่ออีกซักครั้ง
มันเลยเกิดเป็นคำว่า “ถ้ารู้อย่างนี้” ผมว่าไม่มีใครไม่เคยพูด แม้กระทั่งแชมป์โลก นาทีที่เค้ารับเหรียญ เค้าอาจจะกำลังคิดว่า “ถ้ารู้อย่างนี้” น่าจะต่อยอีกซักหน่อยหรือวิ่งให้เร็วกว่านี้อีกนิด คนที่ใกล้เคียงกับคำว่าสมบูรณ์ที่สุดก็ยังมีคำนี้อยู่ ถ้าฟังเพลงนี้แล้วก็อย่าพลั้งอย่าเผลออีก หรือถ้าจะเผลอก็ให้มันเผลอน้อยลง ถ้าใครมีประสบการณ์ร่วม เหลือสิ่งที่เราเสียดายน้อยที่สุดแล้วกันครับ”
เจ๋ง เล่าต่อว่า “คือเรื่องที่พี่กบเจอมามันก็จุกนะที่เค้าเล่าให้ฟัง แต่ตอนที่อัดร้อง พี่อ๊อฟ เค้าบรีฟว่า ไม่ต้องนึกถึงเรื่องของใคร ให้ผมนึกถึงเรื่องของตัวเอง อยู่ดีๆผมก็นึกถึงเเมวที่เพิ่งเสียไปครับ ก็เสียใจนะและก็เสียดายที่ไม่ได้ดูแลมันให้ดีกว่านี้ ต่อยอดไปถึงมิวสิกวิดีโอเลย พี่ “จั๊ก จิรัฏฐ์ สมภักดี” เค้าเลยเล่าประสบการณ์การสูญเสียของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน
ตอนผมเห็นแคสต์นักแสดงคนที่เล่นเป็นแม่ ผมก็จุกเหมือนกันนะ พี่เค้ามีแววตาที่เศร้าจริงๆโดยที่ไม่ต้องพูดอะไร ต้องลองดูๆ ส่วนวงจะมีผ่านๆมานิดหน่อย ไปถ่ายที่ทะเลแถวจันทบุรีครับ พี่ๆในวงคือมีความทรงจำที่ทะเลกัน พอเข้าฉากแล้วไม่ต้องจับเครื่องดนตรีด้วย ก็ปล่อยอารมณ์กันเต็มที่เลย
อยากให้ทุกคนลองฟังกันดูครับ หวังว่าน่าจะชอบและได้รับรู้อีกมุมมองหนึ่ง จะได้ไม่ต้องมาเสียดายภายหลัง มองเห็นคุณค่าคนที่เรารักหรือรักเรามากขึ้นและกลับไปทำอะไรให้มากขึ้นครับ”