ไม่ได้มีผลงานเพลงใหม่ให้แฟนๆ ฟังมาสักพักใหญ่ สำหรับนักร้องเสียงละมุน “เบล สุพล พัวศิริรักษ์” จากบ้าน White Music ในเครือ Gmm Grammy ล่าสุด…หลังจากปล่อย Teaser MV เพลง “เท่าไหร่ก็ไม่พอ” ทำเอาโซเซียลฮอตสุดๆ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 #เท่าไหร่ก็ไม่พอteaser ในเวลาอันรวดเร็ว สร้างความเซอร์ไพรส์แฟน ๆ ด้วยการคว้า 2 ศิลปินสุดฮอตอย่าง “บิวกิ้น – พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล” และ “พีพี- กฤษฏ์ อำนวยเดชกร” มาร่วมถ่ายทอดความรู้สึก อีกทั้งยังได้ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง “บอส – นฤเดช กูโน” ร่วมกำกับออกมาในรูปแบบหนังสั้นถ่ายทำด้วยกล้องฟิล์ม บอกเล่าเรื่องราวที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของมนุษย์ที่ท้อแท้และเศร้าใจจากความรัก เหนื่อยแสนเหนื่อยกับการที่พยายามเท่าไหร่ก็ไม่พอ งานนี้เรียกว่าเป็นการรวมตัวการทำงานของทั้งศิลปิน, ทีมงานที่เต็มไปด้วย passion ซึ่ง “เบล” ก็ใช้เวลานานถึง 1 ปีเต็มๆ กว่าจะได้เพลงนี้ออก รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ไปฟังหนุ่ม “เบล” เล่ากันเลย
“จุดเริ่มต้น เพลงเท่าไหร่ก็ไม่พอ เริ่มจากประมวลว่าเรามีความรู้สึกอะไร ที่มันเกิดขึ้นในตอนนั้นและอยากเล่า จึงเกิดเป็นที่มาเราอยากเล่าความรู้สึกของคนที่อยู่ระหว่างการเดินทางระหว่างความสัมพันธ์หรือเรื่องราวอะไรก็ได้ จุดมุ่งหมายที่ตัวเองตั้งใจจะไปให้ถึง แต่สุดท้ายแล้วมันไปไม่ถึงตรงนั้น มันเกิดความท้อ ความเหนื่อยล้า อยู่ในจุดที่ตัดสินใจว่าเราจะเดินออกมาจากตรงนั้นไหม ทั้งๆ ที่ใจยังอยากที่จะเดินต่อ เหมือนจะเดินหน้าก็ไปไม่ถึง จะถอยกลับก็ไม่ง่าย มันเป็นภาวะของความลังเล และสับสน ซึ่งไม่ว่าทางไหนมันก็เจ็บปวด ส่วนสไตล์ดนตรี เราอยากให้เรียบง่าย ความเป็นธรรมชาติของเสียงดนตรี ทำให้เพลงมีมิติ เพลงนี้ใช้นักดนตรีเยอะที่สุดที่เคยทำมา มีเครื่องสายประมาณ 12 กว่าชิ้น มีความออร์แกนิก และเป็นธรรมชาติ
ใช้เวลาทำเพลงนี้นานมาก ประมาณ 1 ปี… ทำๆ หยุดๆ ค่อยๆ ปั้น อยากให้งานออกมาตรงกับความรู้สึกเราจริง ๆ ครับ พอเพลงมีความดราม่า ถ้าจะทำ MV ผู้กำกับคนเดียวในใจผมเลย คือ “บอส กูโน” เราชอบการถ่ายทอดของเขาก็เลยชวน “บอส” ตอนแรกก็เกรงใจ เขาก็น่ารักหาเวลามาทำให้
ก็ต้องขอบคุณมากๆ สำหรับ “บิวกิ้น” – “พีพี” น้องก็น่ารักอยากมาเล่นให้ประทับใจทุกคน รู้สึกดีใจ มีแต่คนที่เรารักมาอยู่ในงานนี้ คนคุ้นเคย คนที่ผมชื่นชมการทำงาน เหมือนเขามาทำให้และมอบของขวัญให้ผม ทุกคนมาด้วย passion ทุ่มเทจริงๆ รู้สึกซาบซึ้งขอบคุณมากๆ ครับ ส่วนเนื้อหาใน MV เล่าถึงคู่รักที่เลิกกันไปแล้ว คนนึงมูฟออนไปแล้วแต่อีกคนยัง พอกลับมาเจอกัน อีกคนมาแสดงความห่วงใยก็รู้สึกว่า ยิ่งทำให้อีกฝั่งมูฟออนไปไม่ได้ ก็เลยเป็นความอึดอัดใจ ถ้าเรารู้สึกเหนื่อยล้าอะไรสักอย่าง แล้วลังเลว่าจะไปต่อยังไงดี ผมว่าเพลงนี้น่าจะแทนความรู้สึกได้ดี ทุกคนรวมใจกันมาทำงานชิ้นนี้ให้มันสมบูรณ์แบบที่สุด ก็อยากฝากเพลงนี้ให้กับทุกคนด้วยครับ”