เรียกน้ำย่อยกันอย่างต่อเนื่องกับ “ทวงคืน” ภาพยนตร์โรแมนติก-คอเมดี้หนีผีสุดจี้แห่งปีจาก “เอ็ม พิคเจอร์ส” และผลงานการกำกับเรื่องล่าสุดของ “แดน-วรเวช ดานุวงศ์” ซึ่งต่อยอดมาจากเพจดังในชีวิตจริงอย่าง “ทวงคืนแพตตี้อังศุมาลินจากแดนวรเวช” มาบวกกับทีมนักแสดงแนวหน้าของวงการที่จะมาร่วมเป็นสักขีพยานรักทวงคืนสุดระห่ำมันส์ขำตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วย “5 โปสเตอร์คาแร็กเตอร์” แปลกตาที่จัดจ้านสีสันชวนน่าดูและมาเหนือแบบเดาทางไม่ถูกอย่างแน่นอน
“วรเวช ดานุวงศ์” รับบท “ดิน”
“ตัวละคร ‘ดิน’ ในเรื่องนี้จะเป็นอารมณ์ประมาณทำอาชีพยูทูบเบอร์ตามแฟนเสียมากกว่า เพราะเขาคือคนที่ไม่มีเป้าหมายอะไรในชีวิต เหมือนปล่อยเวลาไปเรื่อยๆ แล้วจริงๆ ตัวงานยูทูบเบอร์ก็ไม่ใช่งานที่ตัวดินชอบเท่าไหร่ด้วย เพราะการเป็นยูทูบเบอร์มันทำให้เขารู้สึกต้องมีการแสดงเพิ่มขึ้น มันไม่จริง มันไม่เป็นธรรมชาติ แต่ว่ามันจำเป็นที่จะต้องทำ ซึ่งมันแตกต่างจากตัวจริงของผมที่เป็นคนทำอะไรเรามีเป้าหมายชัดเจนมาก แต่สิ่งที่ใกล้เคียงก็มีนะคือผมเป็นคนขี้ตกใจง่ายเหมือนกัน เป็นคนยิ้มง่าย และก็หัวเราะง่ายอะไรอย่างนี้ครับ (หัวเราะ)”
“อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา” รับบท “พลอย”
“คาแร็กเตอร์จะเป็นผู้หญิงที่เก่งค่ะ เพราะด้วยความที่เขาอยู่ด้วยตัวคนเดียวมาตลอด ส่วนแม่ไปอยู่ญี่ปุ่น มันเลยทำให้พลอยมักจะชอบทำอะไรเองมาตั้งแต่เด็ก ทั้งเก่ง คล่องแค่ว ว่องไว กระฉับกระเฉง และสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีมาก พอได้มาเป็นยูทูบเบอร์กับดิน เรื่องคอนเทนต์ทั้งหมดก็จะมาจากความคิดของเธอเป็นหลัก รู้ว่าจะถ่ายอะไร ต้องทำแบบไหนแล้วถึงจะปัง ก็จะคอยสั่งแฟนว่าต้องแสดงออกแบบไหนแล้วคนถึงจะชอบ รวมถึงตัวพลอยเองเนี่ยก็เป็นผู้หญิงที่ดิ้นรนชีวิตมาประมาณหนึ่ง ฉะนั้นเวลาที่ทำอะไรแล้วได้เงิน ได้เรตติ้งงามๆ เขาก็จะไม่ปฏิเสธเลย จนบางทีก็เผลอมองข้ามสิ่งสำคัญที่มีค่ามากกว่าเงินไปเลยค่ะ”
“กวี ตันจรารักษ์” รับบท “โค้ชบริบูรณ์”
“คาแร็กเตอร์ตัวนี้จะทำอาชีพโค้ชผู้ให้แรงบันดาลใจ ประมาณว่าคุณต้องคิดแบบนี้สิ ถ้าคุณคิดแบบนี้ ชีวิตคุณจะดีนะ แต่ชีวิตตัวเองกลับไม่มีอะไรที่ดีเป็นชิ้นเป็นอันเลยสักนิด และปัญหาหลักๆ ของเขาก็คือ ตัวของบริบูรณ์ยังหาความเป็นพ่อของตัวเขาเองไม่เจอ ซึ่งมันก็จะเป็น conflict อะไรบางอย่างที่หนังเรื่องนี้มันตั้งใจเล่าให้ฟังว่า ถ้าคนที่ยังหาความเป็นพ่อไม่เจอ ผลลัพธ์ที่เขาจะได้รับกลับมามันจะเป็นอย่างไรและอะไรคือสิ่งที่เขาต้องทวงคืนมันกลับมาในภายหลัง ซึ่งแตกต่างกับตัวผมในชีวิตจริงที่จะผูกพันกับลูกมากๆ แต่หนังเรื่องนี้จะเป็นโอกาสสำคัญให้ผมฉีกภาพลักษณ์เดิมๆ ของผมยิ่งกว่าเดิมด้วยครับ”
“สมชาย เข็มกลัด” รับบท “ลุงพล”
“ภายนอกเขาดูเป็นคนไม่น่าคบเลยนะครับ แต่จริงๆ แล้วก็เป็นคนที่ไม่มีพิษภัยอะไร เพราะชีวิตที่อยู่ท่ามกลางกับสิ่งลึกลับที่มองไม่เห็นอยู่ตลอดเวลา แล้วก็ชอบเป็นแบบอยู่คนเดียว ทำอะไรแบบบ้านๆ ในสไตล์ของเองแบบสุดโต่งมากๆ แล้วก็อย่างที่บอกครับว่า ถ้าเวลาคนแปลกหน้ามาเจอเข้าเนี่ย ลุงพลจะเป็นคนที่ดูน่ากลัวมากจริงๆ ครับ”
“เศรษฐพงศ์ เพียงพอ” รับบท “ขุนอำมหิตตราชัย”
“ความรักมันพูดยากอะ มันขึ้นอยู่กับคนสองคน แต่ถ้าทวงคืนแล้วเนี่ยมันต้องมีสามคน หรือว่าสองคนก็ได้ มันก็อยู่ที่สถานการณ์ว่า เรามีสิทธิ์ที่จะทวงคืนรึเปล่า หรือว่าเราไม่มีสิทธิ์ที่จะไปทวงคืนตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ซึ่งในตัวของท่านขุนเองเนี่ยก็เป็นคนที่มุ่งมั่น ตั้งใจ ออกจะหัวดื้อ และก็เป็นคนที่หนักแน่นในความเชื่อของตัวเองสูง แต่ความจริงแล้วเขาค่อนข้างที่จะเป็นคนซับซ้อนพอตัว เพราะอยู่ดีๆ ก็จะมีทั้งมุมโรแมนติก มุมดุดัน มุมโกรธแค้น และก็การทวงคืน ซึ่งก่อนถ่ายก็มีการเวิร์กช็อปกันเพื่อหาสิ่งที่ลงตัวกับคาแร็กเตอร์นี้ให้มากที่สุดครับ”
รวมกันเราอยู่? ทั้งคน ทั้งแฟน ทั้งมิตร ทั้งผี เพราะทุกชีวีตกำลังโดน “ทวงคืน” 13 กรกฎาคมนี้ ได้ #ทวงคืน ในโรงภาพยนตร์