ท่ามกลางกระแสโรคโควิด-19 ระบาดหนักในประเทศไทย ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงกว่า 5,000 คน ทำให้ทุกฝ่ายต่างตระหนักและให้ความสำคัญกับทางเลือกที่จะช่วยแก้ไข ควบคุมสถาการณ์การระบาดของโรคให้ได้เร็วที่สุด คือการเร่งฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน จนกิดเป็นพลังความร่วมมือกันทำงานของหลายๆ ฝ่ายที่จะช่วยกันฝ่าวิกฤติโควิด-19 ครั้งนี้ไปด้วยกัน
รวมไปถึง ปราโมทย์ วิเลปะนะ เจ้าของเพลง มูฟออน ค่ายข้าวสาร เอ็นเตอร์เทนเมนท์ และ ตู้เพลง-พิชญนันท์ ศิราวิริยานนท์ จาก ค่ายข้าวสารมิวสิค เจ้าของเพลง ค่อยค่อยปล่อยมือ
ได้ร่วมเป็นจิตอาสาให้กับกระทรวงสาธารณสุข ส่งกำลังใจ มอบความสุขทางเสียงเพลง ให้แก่ คณะแพทย์ พยาบาล ที่ปฏิบัติงานอย่างหนักให้แก่ผู้เข้ารับการฉีดวัคซีน เพื่อเป็นการผ่อนคลายความตึงเครียด จากการทำงานของทีมแพทย์ และเพื่อคลายความกังวลให้แก่ผู้เข้าร่วมฉีดวัคซีน กับภาระกิจวาระการฉีดวัคซีนแห่งชาติ ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ
ตู้เพลง-พิชญนันท์ กล่าวถึงความรู้สึกว่า “วันนี้ได้มาเป็นจิตอาสาร้องเพลงโฟล์คซองให้แก่พี่ๆ แพทย์ พยาบาล และผู้ที่มาฉีดวัคซีน ร่วมกับพี่ปราโมทย์ และพี่แอ๊น อีโมชั่นทาวน์ วันนี้ร้องหลายเพลงเลยค่ะ รู้สึกดีใจที่อย่างน้อยตัวเองได้เป็นส่วนหนึ่งถึงแม้จะเป็นส่วนเล็กๆก็ตาม ที่จะช่วยกันฟันฝ่าวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ในครั้งนี้ เราได้นำเสียงเพลงไปร้องเพลงให้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ฟังเพื่อผ่อนคลายความเครียดในการทำงาน พี่พยาบาลก็โบกไม้โบกมือตามจังหวะ เขียนกระดาษขึ้นมาขอฟังเพลงบ้าง คนที่ฉีดวัคซีนเสร็จก็จะมานั่งฟังเพลงเพลินๆ ก็ทำให้เป็นบรรยากาศที่สบายๆ ภายใต้การควบคุมโรคและเว้นระยะห่างระหว่างการฟังเพลง ก็รู้สึกมีความสุข
ตู้เพลงก็อยากให้กำลังใจแก่ทีมแพทย์ที่แข็งแกร่งมากๆ อยากให้โควิดหมดไปไวๆ ทางพี่ๆแพทย์ และพยาบาลจะได้ไม่ต้องเหนื่อยกันมากขนาดนี้ ยิ่งทุกๆวันนี้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูงมาก ตู้เพลงก็อยากขอให้ประชาชนทุกๆคนร่วมมือกันอยู่บ้าน ระมัดระวังถ้าหากจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ถ้าเรายังนิ่งเฉยต่อมาตรการป้องกันโรค การ์ดตกไม่ให้ความสำคัญต่อการป้องกันโรคระบาดในครั้งนี้ บ้านเมืองเราก็จะกลับมาเหมือนเดิมได้ยาก อย่างที่รู้ๆกันว่าทุกๆอย่างมันแย่ไปหมด ณ ตอนนี้ โดยเฉพาะเศรษฐกิจ มีแต่ตัวเราที่ช่วยได้ อาจจะดูโลกสวยที่จะบอกว่าเราต้องอยู่บ้านยับยั้งเชื้อนะ แต่เอาจริงๆมันเป็นสิ่งจำเป็นมากๆ เราต้องป้องกันตัวเอง ก็อยากให้พี่ๆทีมแพทย์ทุกๆคนสู้ๆ แล้วเราจะผ่านวิกฤติโรคนี้ไปด้วยกันค่ะ”